มีสิวเม็ดโตผุดขึ้นมาบนใบหน้าก่อนวันสำคัญมักทำให้ความมั่นใจลดลง วิธีที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเป็นอันดับแรกมักจะเป็นการ “ฉีดสิว” เพราะเชื่อว่าเป็นทางลัดที่ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้ไวที่สุด
แต่เดี๋ยวก่อนครับ หมออยากให้ทุกคนทำความเข้าใจกันก่อนว่า ไม่ใช่สิวทุกประเภทที่จะสามารถฉีดได้ และการฉีดสิวไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายของการรักษาเสมอไป
ทำความเข้าใจ “การฉีดสิว” คืออะไร? ช่วยให้สิวยุบได้ยังไง?
การฉีดสิว หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Intralesional Corticosteroid Injection คือ การฉีดตัวยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ที่มีความเข้มข้นเจือจางเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นสิวอักเสบโดยตรง กลไกการทำงานของตัวยานี้ไม่ได้ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหมือนยาปฏิชีวนะ แต่มีคุณสมบัติหลักในการ “ลดการอักเสบ”

เมื่อฉีดตัวยาเข้าไป ยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการอักเสบของร่างกาย ลดการบวมแดง และลดการรวมตัวของเม็ดเลือดขาวในบริเวณนั้น ส่งผลให้ก้อนนูนแดงของสิวยุบตัวลง บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ค่อนข้างเร็ว โดยปกติแล้วมักจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงหลังทำหัตถการ
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดสิว
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คือ การคิดว่าฉีดสิวแล้วสิวจะหายไปตลอดกาล ความจริงแล้วการฉีดสิวเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเพื่อลดอาการบวมชั่วคราวเท่านั้น หากยังมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ สิวเม็ดใหม่ก็สามารถเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นการรักษาที่ยั่งยืนจึงต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวและการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
เช็คลิสต์ด่วน! สิวแบบไหน “ฉีดได้” และแบบไหน “ห้ามฉีด”
การแยกประเภทของสิวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หมออยากให้ลองสังเกตสิวบนใบหน้าของตัวเองดูครับว่าเข้าข่ายประเภทไหนบ้าง

1. สิวที่ “ฉีดได้” (ควรอยู่ภายใต้การดุลยพินิจของแพทย์)
กลุ่มนี้คือสิวที่มีการอักเสบรุนแรง เจ็บ และมีขนาดใหญ่ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจกินเนื้อผิวจนเกิดเป็นหลุมสิวถาวรได้ ได้แก่
- สิวหัวช้าง (Nodulocystic Acne) เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดงขนาดใหญ่ ภายในอาจมีหนองหรือเลือดปน เวลาสัมผัสจะรู้สึกเจ็บปวดมาก สิวชนิดนี้มักมีการอักเสบลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
- สิวอักเสบเม็ดใหญ่ (Inflammatory Papules/Pustules) สิวที่มีอาการบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด และมีความเสี่ยงที่จะทิ้งรอยแผลเป็นหากปล่อยให้การอักเสบกินเวลานานเกินไป
การฉีดสิวในกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดยั้งการทำลายเนื้อเยื่อจากการอักเสบ และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นหลุมสิวในอนาคตครับ
2. สิวที่ “ไม่ควรฉีด” หรือ “ห้ามฉีด”
ไม่ใช่สิวทุกเม็ดจะเหมาะกับเข็มฉีดยา สิวบางประเภทการฉีดอาจไม่ช่วยอะไรเลย หรืออาจทำให้แย่ลงได้ เช่น
- สิวอุดตัน (Comedones) ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวดำ หรือสิวหัวขาว สิวกลุ่มนี้ไม่มีการอักเสบ การฉีดยาจึงไม่มีประโยชน์ วิธีการรักษาที่ถูกต้องคือการใช้ยาทาเพื่อละลายหัวสิว หรือการกดสิวโดยแพทย์
- สิวผด (Acne Aestivalis) ผื่นเม็ดเล็กๆ ที่มักเกิดจากความร้อน เหงื่อ หรือการระคายเคือง ไม่ใช่การอักเสบติดเชื้อแบบสิวทั่วไป การฉีดสิวไม่ได้ช่วยรักษาและอาจทำให้ผิวระคายเคืองกว่าเดิม
- สิวเสี้ยน เส้นขนอ่อนๆ ที่กระจุกตัวรวมกับไขมันตามรูขุมขน ไม่ตอบสนองต่อยาฉีดลดอักเสบ
ความเสี่ยงที่คุณต้องรู้ หากฉีดสิวผิดวิธี
แม้การฉีดสิวจะดูเป็นหัตถการเล็กๆ แต่หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ หรือใช้ปริมาณยาที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดผลข้างเคียงที่แก้ไขยากได้ครับ
- รอยบุ๋ม (Skin Atrophy) หรือผิวหนังฝ่อตัว เกิดจากการฉีดยาในปริมาณที่มากเกินไป หรือฉีดตื้นเกินไป ทำให้ชั้นไขมันใต้ผิวหนังฝ่อลง ผิวบริเวณนั้นจะดูยุบตัวลงไปเป็นหลุม แม้ส่วนใหญ่จะค่อยๆ คืนตัวได้เองใน 2 ถึง 6 เดือน แต่ในบางรายอาจเป็นถาวร
- รอยด่างขาว (Hypopigmentation) ตัวยาสเตียรอยด์อาจไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีชั่วคราว ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีสีขาวกว่าผิวปกติ
- การติดเชื้อซ้ำซ้อน หากอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือการดูแลหลังฉีดไม่ดี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นได้
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม หากคุณกำลังมองหา คลินิกรักษาสิวเชียงใหม่ จึงควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์เป็นผู้ตรวจและทำหัตถการเองทุกเคส อย่างที่ หมออานนท์คลินิก เราให้ความสำคัญเรื่องนี้มากครับ หมอจะเป็นผู้ประเมินเม็ดสิวทุกเม็ดด้วยตัวเอง เพื่อตัดสินใจว่าเม็ดไหนควรฉีด หรือเม็ดไหนควรใช้การรักษาด้วยวิธีอื่น
เทคนิคการดูแลสิวให้ยุบไว โดยไม่ต้องพึ่งเข็มฉีดยาเสมอไป
การรักษาที่ต้นเหตุย่อมดีกว่าเสมอ สำหรับใครที่ไม่อยากฉีดสิว หรือเป็นสิวประเภทที่ไม่ควรฉีด หมอมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองเบื้องต้นดังนี้ครับ

- การประคบเย็น หากเริ่มรู้สึกเจ็บๆ เหมือนสิวจะขึ้น การใช้น้ำแข็งห่อผ้าสะอาดประคบบริเวณนั้น 5 ถึง 10 นาที สามารถช่วยลดบวมและบรรเทาอาการอักเสบในระยะเริ่มต้นได้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิว มองหาส่วนผสมเช่น Salicylic Acid (BHA), Benzoyl Peroxide หรือ Tea Tree Oil ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ทาหนาจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้
- หลีกเลี่ยงการบีบ แกะ แคะ นี่คือกฎเหล็กครับ การบีบสิวเองด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือบีบผิดวิธี จะยิ่งกระตุ้นการอักเสบให้กระจายวงกว้าง และเพิ่มโอกาสการเกิดรอยดำและหลุมสิว
- รักษาความสะอาด ล้างหน้าให้ถูกวิธี และหมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
การฉีดสิวเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือทางการแพทย์ที่ช่วยลดการอักเสบอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ใช่ยาวิเศษที่ใช้ได้กับสิวทุกประเภท การรักษาที่ดีที่สุดคือการเข้าใจผิวของตัวเอง และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้สิวเม็ดเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาเรื่องผิวพรรณ หรือต้องการดูแลรักษาปัญหาสิวและหลุมสิว หมออานนท์คลินิก พร้อมดูแลคุณด้วยความจริงใจและมาตรฐานทางการแพทย์ครับ
อย่าปล่อยให้เรื่องสิว ทำลายความมั่นใจของคุณ เข้ามาปรึกษาหมออานนท์ได้ที่คลินิกนะครับ เราพร้อมช่วยคุณกู้คืนผิวสวยสุขภาพดีกลับคืนมา
ติดต่อสอบถาม/นัดหมายล่วงหน้า กับ หมออานนท์ คลินิก (Anon Clinic)
ที่ตั้ง: โครงการ K-park 111/60 หมู่ 2 ถนน มหิดล ต. หนองหอย อ. เมือง จ. เชียงใหม่
เวลาทำการ: 09.30 – 19.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) คลินิกรับเฉพาะลูกค้านัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น
เบอร์โทรศัพท์: 088 268 2493
LINE Official: @doctoranonclinic
เว็บไซต์: anonclinic.com
